Pages

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2010 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2010 แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 21, 2553

รีวิว : Kick-Ass ( 2010 )

โดยส่วนตัว เป็นคนชอบดูหนังแนว super hero หรือ fantasy อยู่แล้ว ...
แต่เนื่องจากเวลา + สถานการณ์ + ปัจจัยหลายๆอย่าง
การเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ เลยไม่ใช่เรื่องง่ายซักเท่าไหร่ .......
ก็เลยต้องมานั่งไล่ดูเวลามันออกเป็น DVD แล้ว ....
ซึ่งบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แนว บางทีก็หามาดู ...
ประกอบกับช่วงนี้ เป็นช่วงปิดเทอม เลยพอมีเวลาว่าง(อันเล็กน้อย)
กลับมาหาหนังเก่าๆ ดูำได้บ้าง ... ไหนๆ ดูแล้วก็บ่นไว้หน่อยละกันเนอะ ๕๕



Kick-Ass หรือ โคตรเกรียนมหาประลัย ยอมรับว่าเป็นอีกเรื่องที่ นอกคิว เอามากๆ
เพราะตั้งแต่ trailer ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหนังที่คนธรรมดาอยากเป็น super hero
เลยไม่มีความดึงดูดซักเท่าไหร่ แต่ด้วย @Hnan เึคยพยายามลากไปดู
ก็เลยจัดหามาดูซะหน่อย

ตอนแรกไม่ได้สนใจอะไรมาก
เปิดดูผ่านๆ ไปได้ 10-20 นาที ก็เจอประโยคโดนใจ
"My only super power was being invisible to girls"
หลังจากนั้น ... เลยเริ่มตั้งใจดู

โดยเนื้อเรื่องค่อนข้างเสียดสีสังคม พอสมควร
ไม่คิดว่าจะนำเสนอได้เห็นภาพขนาดนี้ ไปลอง search อากู๋ ดู
เจอว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้ ทำมาจาก การ์ตูน
ถ้ามองโดย plot เรื่องก็เป็นเรื่องที่สนุกใช้ได้เลย ( อยากกด Like )

เนื้อเรื่องคร่าวๆ คือ มีนาย Dave เป็นเด็กแนว nerd คนนึงอยากแปลงร่าง
เป็น super hero ดั่งในการ์ตูนมาปราบเหล่าร้ายนอกจอ ... แต่ชีวิตจริงมันไม่
ง่ายดั่งที่ Dave คิด ...
เกือบได้ลงโลง ... เพราะความอวดเก่งของตัวเอง
เกือบโดนฆ่า ... เพราะไว้ใจคนไม่รู้จัก ...
ต้องมาเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่ไม่คิดก่อนทำ...
แต่สุดท้ายหนังก็ผูกให้ นาย Dave ได้แก้ตัวอีกครั้งครับ :)
เจ๋งดี  .... แต่หลังๆ นั่งๆดูไป มีความรู้สึกว่า Hit Girl จะมาเป็น
ตัวดำเนินเรื่องยังไงไม่รุ ... ดูนาย Dave นี่หลุด scene ไปเลย ...


Hit Girl แสดงได้โหดมาก .... ตอนแรกนึกว่าหนังเบาๆ style Marvel
ไม่มีเลือดสาด ... special effect อลังการ .. แต่ที่ดูมา ... ตรงกันข้ามอย่างแรง ...
ให้อารมณ์ Kill Bill มากมาย - -'' ... แต่เด็กที่เล่น Hit Girl แสดงได้เก่งมาก ...
( หรือเป็นเพราะมุมกล้องหว่า )  เอาเป็นว่า ฉากลุยเดี่ยว ขึ้นไปบู้กับบอสใหญ่
เล่นได้ลุ้นตัวโก่ง ....

ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้ครับ .. ถ้าเป็นไปได้ลองหามาเก็บไว้ดูกัน :)

วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 14, 2553

[Blog] QR Code, What's the matter ?


เมื่อ สามปีก่อน สมัยยังเป็น Geek กว่านี้ (หรือตอนนี้ Geek กว่าไม่รู้)
เคยสนใจเจ้าตัว Barcode 2D ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า QR Code http://bit.ly/cVDVzI
เหตุของความสนใจจริงๆ มันเกิดจากว่าไปเข้าเวปของพี่ยุ่น ทั้งหลาย ในแต่ละเวป
เกือบ 80% จะต้องมี ภาพแปลกๆ อย่างข้างบน ติดอยู่ ..... ติดที่เดียวไม่พอ
ติดใน นิตยสาร, ใบเสร็จ, นามบัตร โอ้ยเยอะแยะไปหมด
พอลองมาหาข้อมูลในเมืองไทย กลับเงียบเป็นเป่าสาก ....
อาจเป็นเพราะ มือถือยังไม่ boom เหมือนตอนที่ iPhone เข้ามาไทย ...

จนมาถึง วันนี้ ปี 2010 ... ประเทศไทยมี QR Code ให้ใช้แล้วครับ !!
ต้องขอบคุณศาสดา จ๊อบส์ ที่นำความเจริญมาสู่ชาวไทย ชาบู ชาบู !!

แน่นอนตาม ธรรมเนียมคนไทย กี่ยุคกี่สมัยก็ไม่ต่างกัน (ผมคนนึงก็เป็น)
นั่นคือ "เบอร์ห้า" ครับ ..... แต่เนื่องจาก เคยเบอร์ห้า ไปแล้ว เมื่อสามปีก่อน
มาในวันนี้ เลยไม่ได้เบอร์ห้าไปตามกระแสเท่าไหร่นัก
เพราะเหมือนว่าเป็นเรื่องที่รู้อยู่แล้ว
เมื่อก่อนถึงขนาดมีคนบอกว่า เมืองไทยไม่ใช้กันหรอก
มาถึงตอนนี้ก็แอบขำเหมือนกัน

เอาล่ะ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า QR Code ไว้ทำอะไร ....
หาอ่านได้ที่นี่ ครับ http://bit.ly/bqEld2

สรุปคร่าวๆ ให้ละกันว่า เป็น ฺฺBarcode ที่ สามารถบรรจุ text / data ได้
เยอะพอสมควร ตามตารางด้านล่างครับ


ที่มา : http://bit.ly/bqEld2

ด้วยกระแส ของ IT เมืองไทย เริ่มมีการเอา QR Code มาใช้กันแล้ว
ทำให้มีหลายคนคิดว่า การนำ QR Code มาใช้
จะแสดงถึงความเป็นผู้นำทางด้าน IT ?

โดยความเห็นส่วนตัว Style Geek ....
ก็ถูกครับไม่เถียง การนำ Technology มาใช้เป็นสิ่งที่ดี ...
Put the right man in the right job ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำด้วย
เทคโนโลยี ก็เช่นกัน ....

QR Code โดยพื้นฐาน สามารถเก็บข้อมูลตัวอักษรได้เยอะก็จริง

แต่

การใช้งานจริงๆ ของ QR Code ล่ะ ใช้ทำอะไรบ้าง ?
ถ้าตาม wiki บอกไว้ดังนี้ครับ
คิวอาร์โค้ด (อังกฤษQR Code) หรือ เรียกว่าบาร์โค้ด 2 มิติ คือรหัสชนิดหนึ่งซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขาวดำ นิยมใช้เก็บข้อมูลสินค้า เช่น ชื่อสินค้า ราคาสินค้า เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ และชื่อเว็บไซต์

ซึ่งเมื่อคำนึงถึงพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือ แบบ ideal แล้วล่ะก็ ...
การที่จะเอา QR Code มาใช้ คงมีได้ไม่กี่ลักษณะคือ


1. เป็น Phone Number
2. เป็น URL 
3. เป็น Text ไว้ส่ง SMS

พอกลับมามองในปัจจุบัน กับ ประสิทธิภาพจริงๆของ QR Code จะเห็นได้ว่า
เรายังสามารถเพิ่ม feature ได้มากมายลงใน QR Code ซึ่งการที่ QR Code
ที่สร้างขึ้น จะมีประสิทธิภาพ มาก หรือ น้อย ไม่ได้อยู่แค่เพียง Code ที่เรา Gen
แต่ ขึ้นอยู่กับ QR Reader และ Application เบื้องหลังที่จะนำ QR Code นั้นๆ ไป process

ดังนั้น การนำ QR Code จึงควรคำนึงถึง กราฟด้านล่างครับ (ได้นิยามมาจาก DevFest)


แน่นอน ว่า QR Code ก็มี version ... 
การใช้ advanced Feature ต่างๆ เกิดจากการปรับปรุงใน version ก่อนหน้า
การใข้ QR version ใหม่ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ QR Reader version ใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เอง ... ปัญหาโลกร้อน เลยเกิดขึ้นครับ ... 
เพราะหาก code ที่ gen ขึ้นมา แต่อ่านไม่ได้ มันก็ไม่ต่างจาก ขยะ ดีๆ นี่เอง 
คำถามเดิมๆ ซ้ำๆ เลยบังเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการใช้ QR Code

คำถาม ...... 
แล้วเราสามารถ "บังคับ" ให้ทุกคน 
upgrade หรือใช้ QR Code Application เพื่อจะมาอ่าน Code ที่เรา gen ได้ ?

คำตอบ ..... ก็มี 2 แบบ ครับคือ
- ได้ ครับ ถ้าคุณเป็นคนที่มี "อิทธิพล" มากพอ
หรือ ...
- ไม่ได้ ครับ คุณมีสิทธิ์ อะไร มาบังคับให้เค้าทำ ?

ซึ่งไม่ว่าคำตอบไหน ... ก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่เถียงเป็นปี ก็ไม่จบ ....
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็น hint คำตอบในตัวคำถามเอง คือ

แล้วเราสามารถทำให้ QR Code ที่ gen ขึ้นมา ใช้ได้กับทุกคน ได้ ?

ถ้า้เจอคำถามนี้ ก็มีอีก 2 ทางเลือกเช่นกัน ... แต่จะไม่ใช่ ปัญหาโลกร้อน แบบด้านบน ...
แต่จะเป็น ... ทำได้ กับ ใช้วิธีอื่น ที่ไม่ใช่ QR Code

การที่จะบอกว่้าทำได้นั้น ยังต้องคำนึงถึง data
ที่จะนำมาแสดงว่าสมควรเป็นรูปแบบใด
ด้วยความที่ โทรศัพท์ มือถือเป็นสิ่งที่มี fragmentation มากที่สุด ...
การที่จะให้ทุกคนที่ใช้ โทรศัพท์ มือถือ สามารถเข้าถึงได้มากที่สุด
จึงต้องเลือกวิธีการที่ Simplicity มากที่สุด

สรุปส่งท้าย
- QR Code เป็นแค่ Technology ที่ สามารถ เลือกใช้ได้ ( Optional ) ไม่ใช่ ต้องเลือกใช้ ( Required )
- QR Code อ่านไม่ได้ อย่าโทษคนใช้ หรือ เทคโนโลยี ให้โทษคนทำที่ "กาก"
- QR Code อ่านได้ แต่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่อ่านไม่ได้ อย่าทำเลยดีกว่าไหม ?
- QR Code เป็นแค่ ช่องทาง input data ไม่ใช่ทั้งหมดของ data


ขี้เกียจเขียน SWOT .... เอาแค่นี้ละกัน

วันพุธ, ตุลาคม 13, 2553

[Blog] ครั้งแรกกับ D3vF3st


เป็นครั้งแรก ที่ได้ไปร่วมงาน Google DevFest ที่จัดขึ้นที่ ม.เกษตร กรุงเทพฯ
ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นงานที่มีระดับความ Geek ขั้นเมพขนาดนี้ (ฮา)
แต่ในเมื่อไปแล้วก็ได้ความรู้ดีๆ หลายๆ อย่าง มากมาย ...

ก็ต้องยอมรับว่า Google เป็นบริษัทที่มีการใช้ innovation ที่สูงมาก ...
การพลักดัน standard หรือแม้แต่การทำ product / platform ของตัวเอง
ให้เป็นที่ยอมรับของนักพัฒนานั้น เป็นอะไรที่ดูจริงจัง มากมาย ... 
หัวข้อที่ได้ไปเข้าร่วมฟัง ก็มีหลากหลายที่เกี่ยวกับ web
รวมไปถึง trend ต่างๆ ที่แม้ว่า จะได้รับข่าวสารทุกวันอยู่แล้ว 
แต่การจัด session แบบนี้ทำให้ Developer สามารถหา opportunities ต่างๆ ได้ 
เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัว Developer เพียงอย่างเดียว 
ทางคนคิด platform อย่าง Google ก็ได้รับผลประโยชน์กลับมาด้วยเช่นกัน 
ทั้งในด้าน Branding และ การพัฒนาของ product ตัวเอง

โฆษณาเยอะละ พอ พอ ๕๕ 

หัวข้อที่ไปนั่งฟังก็ได้ความรู้ + ความฮา ดีครับ ... 
จริงๆ ก็เป็นเรื่องที่พอรู้อยู่แล้ว 
แต่ก็อยากไปฟังว่า เค้าจะมานำเสนออะไร + ลักษณะการ present มากกว่า  ...
ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะเป็นแนว presentation zen ซะมาก คือ 
ทำ presentation เพื่อไว้โยงกับเรื่องที่จะพูด
ไม่ใช่ทำ presentation เพื่อขึ้นไปอ่าน .... 
ส่วน presentation ไหนที่ text เยอะมากจริงๆ ก็เข้าใจว่าเค้าต้องการเอา code มาให้ดู
ก็เลยเป็นข้อยกเว้นไปครับ แต่ที่สังเกตุได้ คือ
พนง. Google ใช้ mac ทุกคน ...... โอ้ว แม่เจ้า ... เห็นแล้วอยากใช้ขึ้นมาทันที ...
เพราะโปรแกรม keynote ที่ใช้กัน feature มันอลังการกว่า powerpoint เยอะมาก ...
เห็นแล้วกิเลสขึ้น ๕๕๕ ก็สนุกดีครับ แต่เสียดาย ที่งานนี้ ไม่ค่อยมีดอกไม้ในทุ่งกว้าง ...
ก็เลยขาดสีสันไปนิด .... แต่ก็ไม่เป็นไร เหมาะสมสำหรับงาน Geek ครับ ๕๕๕

สรุปความเห็นคร่าวๆ ในเรื่องที่เค้า present ละกัน ...

1. Android + Froyo 

โดยรวม show key feature ของ android แล้วก็แนะนำวิธีการพัฒนา app 
ว่าขึ้นอยู่ กับว่า app ที่ทำขึ้น อยากได้ advanced feature หรือว่า จำนวน user ... 
เป็นกราฟที่โดนใจมาก .... เพราะ user จะใช้ version เก่าๆ มากกว่าใช้ version ใหม่ๆ ....  
ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับว่า app เราต้องการอะไรกันแน่ระหว่าง user หรือ advanced feature ...
แอบเซ็งกับ C2DM Server นิดหน่อย ... แต่ก็ต้องรอดูต่อไป ...

2. HTML 5 in Chrome

หลักๆ แล้ว มาขาย HTML 5 ในส่วนที่ Chrome implement แล้ว ... 
ก็ตื่นตาตื่นใจดี ... แต่เห็นแล้ว  นึกถึงอนาคต ขึ้นมาทันทีว่า ... 
PC เก่าๆ จะยังเล่น HTML5 ได้เต็ม feature หรือเปล่า ...

3. Social 

มาขาย Google Buzz ... เป็น product ของ Google 
ที่รวมเอา open standard มา built  รวมเป็น product ของ Google ... 
ด้วย architect ที่วางไว้ นับว่าเจ๋งมาก ... 
แต่ด้วย buzz ยังเป็น beta อยู่(มั้ง) เลยทำให้ sync service ข้างนอก 
เช่นพวก twitter  ช้ากว่าชาวบ้านหลายขุมมาก .. จนบางคนบอกว่า "ห่วย" 
แต่ด้วย architect มัน เจ๋ง จริงๆ นะเออ ...
( แอบตลก pubsubhubbub เล็กน้อยเรียกยากเกิ๊น ) 

4. Map API

หลักๆ มาบอกว่า Google Map มี javascript API ให้ V3 แล้วนะจ๊ะ ... จบ

5. Developer show case

ได้เห็น @sugree ตัวเป็นๆ ก็งานนี้ ... อีกคน @prawoot มั้ง จำชื่อไม่ได้ ... 
ก็ฮาอย่างเดียว ...แต่ได้รู้แล้วว่า @sugree เมพ จริงๆ ...

6. Work At Google

สัมภาษณ์ คนไทยที่ได้ร่วมงานกับ Google ... ก็ได้ idea ดี ทำให้รู้ว่า 
ระบบบริษัทที่เป็น international ไม่ได้ต่างกัน ... 
จะต่างกันแค่ชื่อเสียง และ Benefit ...เท่านั้น ...
เป็นผลพวงมาจากการเรียน HR ... ทำให้มองได้ขนาดนั้น :)

7. Entrepreneurship Panel

ได้ idea เกี่ยวกัีบการทำ product ที่เกี่ยวข้องกับ IT มาเยอะเลย .... 
ชอบ 7 concept ข้อสุดท้ายมาก ... 
Life is too short to work , Let's have fun.


สรุปแล้วได้ idea + inspire ในการทำงานขึ้นมาเยอะเลย .... 
ก็โออะนะ ...แต่ครั้งหน้าจะไปเหรอเปล่าคงต้องดูก่อน 
ถ้าทำ project เสร็จทัน คงได้มาแจมอีกครั้ง :)

สุดท้ายต้องขอบคุณ Google + KU + Sponsor ที่ทำให้เกิดงานครั้งนี้ครับ :)
 สุโค่ย จริงๆ ๕๕๕





วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 07, 2553

[Blog] สู่บ้านหลังใหม่ที่ blogspot

เป็นอีกครั้งที่ทำการย้ายบ้าน ... และหวังว่าคงยังไม่ต้องย้ายไปอีกซักพักใหญ่ ...
( ถ้าที่ออฟฟิศเอื้ออำนวยให้สามารถเล่นได้ ...)

เหตุผลหลักๆ ที่ย้าย blog รอบนี้ อีกรอบก็เพราะ ...
แอบไปติด Social Network ที่เรียกว่า facebook แทนซะแล้ว
แต่ใน facebook ถ้าอยากเขียน blog ก็มีแค่เพียง feature ที่เรียกว่า Note อย่างเดียว ...
ซึ่งทำอะไรได้น้อยเกิน ... ประกอบกับไม่ถนัดอย่างแรง ... หน้าตาก็สีฟ้าๆ
ถึงจะชอบก็เถอะแต่มันไม่เหมือน blog (หง่ะ)  และด้วยเหตุอันสุดวิสัย ที่หน่วย Network ที่ออฟฟิศ
ทำการ block Multiply ไป .... เลยไม่รุจะเข้าได้ยังไง ...
เพราะแค่หาทางเข้า facebook ก็หมดเวลาแล้ว ....(ฮา)

ตั้งแต่เริ่มเขียน blog ที่นี่เป็นที่ที่ 3 ที่คิดจะเขียน blog จริงจัง ....
มาลองนั่งนึกๆดู ....
ที่แรก ก็คงไม่พ้น ... Window Live Network
ที่ที่สองก็ คงเป็น ...  Multiply
ที่นี่ก็เป็นที่ๆ 3 ...

ตอนนี้ยังไม่ค่อยมี topic อะไร ไว้คิดออกค่อยมาเขียนอีกทีเนอะ ๕๕๕

วันเสาร์, ตุลาคม 02, 2553

[Blog] Begins ...

หลังจากห่างหายกับการเขียน blog ไปนาน (มาก) ร่วม ... 2 ปีได้มั้ง ....
เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างในชีวิตขาดหายไป ... เลยได้จังหวะหา blog ใหม่
มาไว้บ่น เอ้ย ไว้เล่า(แบบไม่มี mixer) อีกครั้ง ... คงเปลี่ยนรูปแบบการเล่า
และการเขียนบทความใหม่ ให้เหมาะกับอายุขึ้นหน่อย ....
คงได้เริ่มต้นเร็วๆนี้ครับ :)

จะว่าไป blog นี้ เปิดมาตั้งกะ 2006 เพิ่งได้มาปัดฝุ่นเอาปี 2010 ...
อือ ... เยี่ยมมาก..