Pages

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2013 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 2013 แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดี, เมษายน 04, 2556

[Blog] ตามรอยเซเลป @ BugDay 2013


แอบติดตามผลงานของ Speaker ในงานมานานพอสมควรแล้วครับ
ต้องบอกว่างานนี้โชคดีจริงๆ ที่ได้ไปฟัง รวมไปถึง update technology
ที่ใช้ในการพัฒนาซอฟแวร์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ...

ต้องขอขอบคุณทีมงาน WeLoveBug และเหล่า Sponsor ที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมาได้
ขอบคุณมากๆ เลยคร้าบ ( -/\- ) ไว้หากกำลังทรัพย์เพียงพอหรือที่ออฟฟิศให้การสนับสนุน
จะไปอุดหนุนครัฟ :D

ช่วงเช้า ...

ของว่างไฮโซ ...


Session แรก ได้ไปฟัง @rawitat  กับแนวคิดเรื่อง UI & UX มีประโยชน์มาก
สำหรับ Dev ที่ต้องทำ User Interface แล้วต้องการให้ "ตอบโจทย์" กับ requirement
ที่ได้มา ... ซึ่งบางทีเรามักจะคิดเผื่อ แต่ไม่ได้คิดถึงว่า
เวลาใช้งานจริงๆ แล้ว user จะใช้งานได้ยังไง ไปฟังแล้วฮาดี
แต่ก็แอบมี dead air บ้างเพราะตามไม่ทัน = =''

ข้าวเที่ยงตามอัธยาศัย ( มาม่า 2 ห่อ พิเศษ 30 + น่องไก่ 12 = 42 )


ช่วงบ่าย ...

Profile เมพมาก *-*

Session สอง ได้ไปฟัง อาจารย์สุรเดช ( ไม่รู้จัก และเหมือนจะสะกดชื่อผิด -*- )
พูดถึงเรื่อง TDD with Legacy Code โชคดีที่ได้อ่าน
Work Effective with Legacy Code มาก่อนบ้างแล้ว เลย
ทำให้เข้าใจสิ่งที่เค้าพูดได้ระดับนึง ... Session นี้ก็ได้ชื่อหนังสือ
ที่ต้องไปหาอ่านเพิ่มอีกหลายเล่ม พร้อมกับ lib ที่ชื่อ Google Test  ที่ไว้ใช้ทำ C++ Unit Test
ดูแล้ว น่าสนใจ เพราะ syntax ไม่ยาก ( คล้ายๆ JUnit ) แต่ดูเหมือนที่ออฟฟิศ จะใช้อีกตัว
ก็เลยผ่านๆ ไป ... แต่ได้ประโยคเด็ดมา ....
Legacy Code ไม่ได้หมายถึง Code เก่า แต่หมายถึง Code ที่ไม่มี Unit Test
ฟังแล้ว ... แอบชักดิ้นชักงอ ในใจ ....



Session สาม ได้ไปฟังของ @roofimon ขายของเกี่ยวกับ BDD ( Behavior Driven Development )
ฟังดูแล้วก็เหมือนกับ ATDD แต่สรุปใจความได้ว่า BDD จะ "ค่อนข้าง" เป็นมิตรกับคนที่ไม่ได้เขียน
Program เสียมากกว่า ATDD เนื่องจาก BDD จะ focus เฉพาะส่วนที่อธิบาย requirement แบบ Scenario
ที่ช่วยตีกรอบให้ Developer ทำงานอย่างที่ควรจะเป็น ....
ซึ่งโดยส่วนตัวก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ Dev ไม่ต้องมานั่งเถียงว่าเป็น Feature หรือเป็น Bug ...

หัวหอม Agile จาก : http://www.trainingbytesize.com

ได้รู้จัก Tool เพิ่มขึ้นมาอีกสองตัว ที่นอกเหนือจาก fitnesse ด้วย
นั่นคือ JBehave กับ Cucumber ซึ่งตัวหลังดูมีภาษีมากกว่า

โดยสรุปก็เป็นงานสัมมนาที่มีประโยชน์มากอีกงานครับ
ได้ไอเดีย, Tool, Library มาอ่านต่ออีกเยอะเลย
ต้องขอบคุณ ทีมงาน WeLoveBug และเหล่า Sponsor อีกครั้ง ณ ที่นี้ด้วยครับ ( -/\- )






วันพฤหัสบดี, มีนาคม 28, 2556

[Blog] ขี่ช้างจับตั๊กแตน

รูปจาก - http://ressources.learn2speakthai.net/thai-proverbs/ride-an-elephant-to-catch-a-grasshopper/

ตั้กแตน ที่ใครๆ ก็อยากได้ ...
การจะได้มาซึ่งตั้กแตน หนึ่งตัวนั้น มีได้หลายวิธี ...
แต่ละวิธี ก็มี "ค่าใช้จ่าย" ที่แตกต่างกันไป ...

บางครั้ง เวลาที่เราอยากได้ตั๊กแตน ตัวนั้นมากๆ ...
เรามักจะลืมนึกไปเสมอว่า สิ่งที่เราใช้จับตั๊กแตน นั้น มีค่าใช้จ่ายสูงเพียงไร

เราอาจจะมีทรัพยากรอย่างจำกัด หรือมีล้นเหลือ ... แต่เพื่อให้ได้ตั๊กแตนตัวนั้น ...
เราถึงกับยอม "จ่่าย" อย่างสุดตัว เพื่อให้ได้ตั๊กแตนตัวนั้นมา ....
เราอาจจะ "ซื้อ" เวลา ที่เราจะต้องเสียไปกับการจับตั๊กแตนโดยให้คนอื่นมาช่วยจับให้ ...
แต่เราอาจจะลืมนึกไปว่า หลังจากที่จับตั๊กแตนตัวนั้นได้แล้ว ...

เราจะทำอย่างไรกับมัน ... หรือแม้แต่มานั่งคิดว่า ตั๊กแตนตัวนั้น
ใช่สิ่งที่เราคาดหวังว่าจะได้มาเหรอเปล่า ...

เราอาจคาดหวัง ตั๊กแตนที่มีปีกแบบพิเศษ
แต่สิ่งที่เราได้มากลับเป็นตั๊กแตนบ้านๆ ธรรมดา ...

แต่ในเมื่อเสีย "ค่าใช้จ่าย" แถมด้วยทรัพยากรที่ไม่หวนคืน อย่าง "เวลา"
ถูกใช้ไปแล้ว แต่กลับไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองอยากได้ ... คงไม่ต่างกับ "ขี่ช้างจับตั๊กแตน"

หากคิดจะจับตั๊กแตน .... ควรใส่ใจกับรายละเอียด หรือขั้นตอน
รวมไปถึงแหล่งที่อยู่ของตั๊กแตน ก่อนที่จะลงมือจับ  ...

แต่หากคิดจะไม่ศึกษา ...
สิ่งที่เราควรมีอย่างล้นเหลือ ก็คือ  "เวลา" เพื่อที่จะให้ลองผิดลองถูก ...

ว่าแต่ ... เราจะยอมจ่าย "เวลา"  มากมายขนาดนั้นเชียวหรือ ???

วันอาทิตย์, มีนาคม 10, 2556

รีวิว : Oz the Great and Powerful ( 2013 )


เพิ่งได้ไปดูมาสำหรับ Oz the Great and Powerful ... ครับ
โดยรวมถือว่าสนุกดีสำหรับ prequel ก่อนที่จะมาเป็น
พ่อมด Oz ที่ได้รู้จักใน The Wonderful Wizard of Oz ( ที่มี หุ่นไล่กา กับ หุ่นกระป๋องตัดไม้ .... )

อ่านสปอยล์แบบเต็มเรื่องสามารถไปอ่านได้ใน Wikipedia ครับ :P
เอาเฉพาะส่วนที่อยากรีวิวลงแล้วกัน ...


  1. นึกว่าทั้งเรื่องจะเป็นสีขาว/ดำ .... แอบงงอยู่พักใหญ่ ....
  2. ฉากสวยมาก ... ถ้าได้ดูแบบ 3D คงจะอลังการมิใช่น้อย
  3. เนื้อเรื่องออกแนวเด็กๆ ไม่มีฉากบู้ หวือหวา
    หากหวังให้มีฉากต่อสู้อลังการ แนะนำให้ข้ามไป
  4. เข้าใจว่าบท Oz น่าจะ Playboy มากกว่านี้ ...
    ให้ James Franco มาเล่นแล้วผิดหวังเล็กน้อย
    (ลุง Robert Downey, Jr. มาเล่นคงเหมาะกว่า )
  5. นางเอก หน้าตาเฉยๆ บทน้อยแปลกๆ
  6. มุข กับ quote เยอะดี ... จำไม่หวัดไม่ไหว ....
ตอนแรกแอบคาดหวังว่าจะมีฉากบู้อลังการ ... 
แต่เนื้อเรื่องแอบใส่ข้อคิดไว้เยอะดี ... ก็ถือว่าพอถูไถได้ :)





วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 24, 2556

[PC] รวมมิตร Kunio Fan Remake


หลายๆ ครั้งก็ตั้งตารอ ให้ Konami ( Arc System Works )
จัด remake เกมส์สุดคลาสสิค 8bit ก็ดูจะเหมือนเลือนลางมากไป ...

ซึ่งสุดท้ายเค้าก็ทำ remake บน 3DS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่เพียงแค่ภาค downtown เท่านั้นและยังไม่มีกำหนดการว่า
จะทำภาคอื่นๆ remake ต่ออีกหรือไม่ ...

ครั้นจะเล่นผ่าน Rom ก็พอแก้ขัดไปได้ ... แต่เกมส์มันก็อายุ 25 ปีแล้ว ...
เลยอยากจะหาอะไรที่มัน "เพิ่มเติม" จากของเดิม ไม่มากก็น้อย ....

โชคดีที่ยังมี คนญี่ปุ่น นั่งทำ fan game ให้เล่นอยู่
แต่ด้วยตัวเกมส์เป็นภาษาญี่ปุ่น อาจจะลำบากในการ customize เสียหน่อย
ซึ่งเวปหลักที่รวม Fan Remake ไว้ คือ เวปนี้ครับ

http://920clone.wiki.fc2.com/


โดยเกมส์ที่นำมาทำต่อ จะมีได้แก่
  • ภาคกีฬาสี


  • ภาคดาวทาว์นสเปเชียล ( ย้อนยุค )


  • ภาคดอร์จบอล


  • ภาค KD ( มวยปล้ำ )


โดยแต่ละภาค เราสามารถมาแก้ตัวละครเองได้ เพราะเป็น text file (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด)
แต่ก็โชคดีที่ภาค KD มี Community เป็นภาษาอังกฤษ โดยเข้าไปอ่านได้ที่

http://nkdc.forum-motion.net/

ตัวอย่าง modified version :



แฟน คุนิโอะ แนว Hard Core ไม่น่าพลาดครับ :P

[Blog] Java ดราม่าสำเร็จรูป ?


หลายๆ ครั้ง ที่เห็น หลายๆ Blog มีความพยามวาดภาพให้คนที่มาอ่าน
คอยจิ้น ( Imagine ) ตามไปว่า #จาวาค้างส์ บ้าง #จาวาพรุนส์ บ้าง
ก็พอเข้าใจ แต่สิ่งที่ไม่ค่อยเห็นด้วยในหลายๆ ครั้ง
คือความพยาม "ชี้นำ" โดยเอาข้อมูลที่ "พูดไม่หมด"
มาเป็นประเด็นให้คนที่มาอ่าน "ตามกระแส" จนบางครั้ง
ก็เป็นดราม่าใหญ่โตถึงขนาด แบน Account กันเลยทีเดียว ...

เคยออกตัวไว้ใน Blog เก่าๆ นานแล้วว่าใช้ Java เพื่อทำมาหากิน
และ Oracle ไม่ใช่พ่อ ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเขียน "อวย" 
แต่ด้วย ปัญหาสุดฮอต เรื่อง Java โดนเจาะในตอนนี้ 
ในฐานะ Software Developer ที่ทำอยู่กับ Java
สิ่งที่ควรนำเสนอก็ ควรจะเขียนแบบไม่ Bias
มากกว่า "เลิกใช้มัน ไปใช้อย่างอื่นเถอะ" ซึ่งฟังแล้วดูเหมือน

Java เป็น Death Star ส่วน Oracle เป็น Dart Vader 
( ส่วนสาวกจะเปรียบดั่ง เสื้อแดง ปะทะ เสื้อเหลือง ก็มิปราณ ....  )
 
Java พรุนส์ จริงหรือ ? 
ว่ากันด้วยสัจธรรมของ Software Development  ที่ว่า
"ไม่มี Software ใดที่ไม่มี Bug"  ...
Java ก็เช่นกัน แต่ถ้าตามอ่าน Oracle Securiy Alert เป็นประจำ
หรือ ศึกษาที่มาของปัญหา ก่อนที่จะเอา Emo มาบรรเลงบน Keyboard
จะพบว่า การโดน"เจาะ" หนักๆ ที่ค้นพบจะกระทบ ...

issues CVE-2013-0422 (US-CERT Alert TA13-010A - Oracle Java 7 Security Manager Bypass Vulnerability) and another vulnerability affecting Java running in web browsers. These vulnerabilities are not applicable to Java running on servers, standalone Java desktop applications or embedded Java applications. They also do not affect Oracle server-based software.
นั่นหมายความว่า จะกระทบเครื่อง Server ที่เป็น Java ได้ก็ต่อเมื่อ
มี Developer รู้เท่าไม่ถึงการไปเล่น Web Browser แล้วเปิดเวปที่มี Vulnerability
บนเครื่อง Server ...  เท่านั้น ซึ่งก็ดูจะ Non-Sense มากกับองค์กรนั้นๆ
ที่ให้ Developer ไปเล่น web ที่มีโอกาสโดน attack บน Server ที่สำคัญๆ

ในเรื่องของความปลอดภัยระดับ end-user
โดยปกติ ถ้าหาก "กังวล" กับเรื่อง Security มากมาย
ก็ควรจะปิดทุก plug-ins บน Web Browser อยู่แล้ว
แต่ทำไงได้หากจำเป็นต้องใช้ Plugins ?

JRE รุ่นใหม่ๆ ก็มีระบบ Security เพียงพอ ที่จะ Acknowledge
ให้ user รู้ว่า " จะรัน Java ที่ไม่ Trust แล้วนะ บน Web Browser จะอนุญาต หรือเปล่า ? "


ซึ่งถ้าจะ impact กับระดับ end-user ได้นั้น
คงไม่พ้น user ที่ไม่คิดจะอ่านอะไร / ไม่คิดจะ update security
แล้ว ติด malware จาก web กระจาย ไม่ต่างกัน

Java ค้างส์ จริงหรือ ? 
วาทกรรมนี้ เป็นวาทกรรมที่ Bias แบบสุดติ่ง
เหมือนเราขับรถชน แต่ดันไปโทษ แก๊สโซฮอล์

ถ้า Software ที่ใช้มันค้าง ... ก็ควรโวยวายกับคนเขียน Software
มากกว่าจะไปโทษที่ภาษาที่ใช้เขียน Software ว่าไม่ดีเจ็ดแปดเก้าสิบ
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนเขียน Software นั้นขึ้นมาเอง
คุณก็ควรรู้ตัวว่าความรู้ที่คุณมีมันไม่พอที่จะทำให้ Software นั้นดีได้ 
เลิกโทษภาษาเขียนโปรแกรม แล้วหันไปหาของที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับงาน
นั่นน่าจะถูกต้องกว่า สำหรับการทำ Software Development

Java ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะ จริงหรือ ?
เยอะจริง ... เพราะมันเป็น "Java Virtual Machine"
แต่เคยมองกลับกันไหมว่า หากเราเปิด window ใน osx หรือเป็น linux บน window
สิ่งเหล่านั้นก็เป็น Virtual Machine เหมือนกัน
ทำไมเราถึง "ยอม" ให้ VM เหล่านั้น ใช้ทรัพยากรเครื่องได้เยอะๆ แต่กับ Java ไม่ได้ ?


สรุป

ในมุมของ Software Development มักจะมีคำพูดเสมอว่า
"ขึ้นอยู่กับการใช้งาน"
แม้ว่า java จะไม่ปลอดภัยในระดับ end-user
แต่มันก็มี workaround และ Knowledge Management
ที่สามารถสื่อสารให้ end-user เข้าใจ และ ระมัดระวังได้ดีกว่า
การบอกให้เลิกใช้ โดยยกแม่น้ำทั้ง 5 ว่า คนนั้น คนนี้ Evil ....

อาห์ ดูจะปกป้องมากเกินไปหรือเปล่า ...
แค่นี้ดีกว่า อุอิ




รีวิว : Bastion - นิทานเด็กบ้าพลัง


ช่วงนี้ Steam มีลดราคาเกมส์เนื่องจากเปิดตัว Client บน Linux
ก็เลยได้มีโอกาสเล่น Bastion บน PC ( ที่สามารถเอาไปลงบน Mac และ Linux ได้ในภายหลัง )

เป็นอีกเกมส์ที่เล็งอยู่นาน เนื่องมาจากชอบ Graphic ของเกมส์
ที่มีลักษณะเป็น Hand-Painted และเป็น Action RPG ... ก็เลยจัดมาจนได้รีวิวครับ :)

เนื้อเรื่อง
จับใจความได้คร่าวๆ ว่าตัวละครที่เราบังคับนั้นชื่อ "the Kid" ที่อยู่ในโลก Caelondia
ที่ใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้มาเจอตาแก่(คนเล่าเรื่องในเกมส์) ที่เกาะ Bastion
และขอให้ช่วยรวบรวม "Core" ที่กระจัดกระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ ใน Caelondia
เพื่อนำมาฟื้นฟูโลกนี้ไว้อีกครั้ง ....


ลักษณะเกมส์
อย่างที่บอกไว้คือเป็นเกมส์ Action RPG คล้ายๆ Diablo หรือเกมส์อื่นๆ ที่เป็น 2.5D
(เป็น 3D แต่ fix มุมกล้อง) ทำให้เล่นแล้วไม่ค่อยเวียนหัวเท่าไหร่
ซึ่งอาจจะเพราะรูปเป็น Hand-Painted ด้วยก็ว่าได้ แต่ส่วนที่ดูอลังการ และ อึ้งมาก
นอกเหนือจากภาพสวยแล้ว คือ ระบบดำเนินเรื่องของเกมส์ ที่จะมีเสียงของตาแก่
คอยเล่าตลอดแม้แต่ตอนที่เรา เหวี่ยงอาวุธ


การดำเนินเนื้อเรื่อง
Bastion จะใช้ระบบ "Sky Way" หรือ "บิน" ไปเพื่อที่จะไปยัง Chapter ต่างๆ
โดย Chapter จะมี 2 ลักษณะคือ
  1. ดำเนินเนื้อเรื่องปกติ 
  2. ทดสอบอาวุธที่เรามี
โดยส่วนที่ดำเนินเนื้อเรื่องปกตินั้น สามารถทำได้แค่ครั้งเดียว
แต่ส่วนทดสอบอาวุธ สามารถเข้าไปเล่นได้เรื่อยๆ
โดยจะมี Ranking เพื่อเก็บ Skill พิเศษด้วย ....
ซึ่งเกมส์ Action RPG หากไม่มีที่เก็บ Lv ก็คงจะเล่นลำบากพอตัว
ในเมือง Bastion จึงมี Dreaming Mode ที่เราสามารถเข้าไปประลองฝีมือ
หากเราชนะก็จะได้ exp และ เงินที่ใช้สำหรับซื้อของในเกมส์ได้ ....

ส่วนที่ไม่อยากสปอยด์คือ Weapon / Skill / Passive Skill  ...
ดู video จาก link ด้านบนน่าจะเห็นภาพมากกว่า :P


สรุป ..
 เป็นอีกเกมที่น่าเล่น ที่สำคัญหากซื้อกับ Steam (ไม่ได้ค่าโฆษณา)
จะสามารถ port เล่นข้าม OS ได้ด้วยซึ่งเป็นข้อดี มิใช่น้อย ....
หากชอบ Action RPG อยู่แล้ว จัดไว้ไม่เสียหายครับ :P


Tip
  • หลังจากเล่นจบไป 1 รอบจะมี new game plus
    ซึ่งจะ carry ข้อมูลทั้งหมดมาให้เล่นใหม่ได้ ...
  • หากเกมส์ง่ายเกินไป ในเกมส์จะมีระบบ Shrine
    ให้เราสามารถปรับระดับความยากตามที่เราอยากเล่นได้ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม :
 - Bastion Wiki - http://bastion.wikia.com/wiki/Bastion_Wiki







วันอังคาร, มกราคม 29, 2556

iOS .. บั๊กไม่ยอมเปลี่ยนแปลงงงง


หลังจากใช้ iPhone มาได้ 3-4 เดือน ก็พบว่าถึงแม้ว่าการใช้โดยรวมของ iOS นั้นจะราบรื่น
ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนที่เคยเจอใน Optimus 2x แต่ก็มีบางจุดที่แอบหงุดหงิด ...
คงด้วยเพราะความไม่ชิน หรืออะไรก็แล้วแต่ ...
แต่ด้วยความคิดที่ว่า สิ่งที่เจอ ... หลายๆ คนก็คงเคยเจอมาก่อน พยามหาจาก อากู๋
รวมไปถึงถามจาก "กูรู้" ต่างๆ ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเท่าไหร่นัก
จึงอยากรวบรวมสิ่งที่ลองผิดลองถูกเอาไว้ เผื่อใครที่เจอปัญหาคล้ายๆ กัน
น่าจะเอาไปปรับลองใช้ดูได้บ้าง

คำเตือน: สิ่งที่จะอ่านต่อไป ไม่ได้รับประกันว่าทำตามแล้วจะใช้ได้ 100% 
อันเนื่องมาจากบาง iOS version อาจจะได้รับการแก้ไขไปแล้ว ...
ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณ ก่อนทดลองทำ ... เพราะเป็นเพียง "workaround" เท่านั้น




1. WiFi ใช้แล้วหลุด / ต่อไม่ได้ / เล่นเกมส์ไม่ได้ ...  

วิเคราะห์สาเหตุ: 
วิธีแก้ไข:
  • แนะนำให้ทำตาม ที่นี่ มีคนทำมาให้แล้ว สบายโก๋ ....
-------------------------------

2. กด Assist Touch กลับหน้า Home แล้ว จอไม่ดับ (ห้ามผวน)

วิเคราะห์สาเหตุ: 
  • บั๊กใน iOS  โดยเกิดจาก Assist Touch จำ State สุดท้ายไว้
    และไม่ยอมปล่อย Event กลับไปให้ iOS เป็นคนจัดการ
วิธีแก้ไข:
  • หลังจากกด Assist Touch เพื่อกลับหน้า Home แล้ว
    ให้ทำการเลื่อนหน้าจอ ( Page Swipe ) ซ้ายหรือขวาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง 

-------------------------------

3. App Store ขึ้น Notification ว่ามี App Update แต่กดเข้าไปแล้วไม่เจอ Update

วิเคราะห์สาเหตุ: 
  • Internet ที่เชื่อมต่ออยู่ไม่ดี ทำให้ Cache ใน iOS มีปัญหา
วิธีแก้ไข:
  • ตรวจสอบว่า Apple ID ที่ใช้อยู่นั้นเป็น ID ที่ใช้ในการโหลด App มาลง 
  • ตรวจสอบ internet ว่าสามารถ download app บน App Store ได้ปกติหรือไม่
  • หากทั้งสองข้อบนปกติ ทำตามด้านล่าง ...
  • ไปที่ Settings > Safari แล้ว เลือก Clear Cookie & Data
  • Notification บน App Store จะหายไป แล้วให้เข้าไปที่หน้า update อีกครั้ง
  • ถ้ายังเป็นอยู่ ... กลับไปตรวจตั้งแต่ข้อแรกใหม่ ...
-------------------------------

Extra.1 .รับโทรศัพท์ แล้วเสียงเพลงในเกมส์หาย ( HayDays & CoC )

วิเคราะห์สาเหตุ: 
  • อาจจะเป็นบั๊กเกมส์ lol
วิธีแก้ไข:
  • เปิด Task Manager แล้ว end task จากนั้นรอสักครู่ ค่อยเปิดใหม่
-------------------------------

เอาเท่าที่เจอก่อนครับ หลักๆ แค่ 3 ข้อนี้ก็แอบเซ็งแล้ว .... 
แต่โดยรวมการใช้งานก็ยังดีกว่าที่เคยเจอใน Android ล่ะนะ ... 
ไว้จะมา update เรื่อยๆ ครับ :)

วันเสาร์, มกราคม 19, 2556

[Blog] Hay Day ใครใครก็ขายแพง


ช่วงนี้ คุณแม่ติด Hay Day มากถึงมากที่สุดครับ ครั้นคุณลูกได้ i5 มาแล้ว
ก็ไม่วายต้องช่วยเล่นไปด้วย ... เนื่องจากเกมส์นี้เป็น online ...
และเป็นเกมส์ที่ใช้ in-app purchase .... ในบางกรณีถ้าหากไม่ใช้ความพยายามมากพอ
เล่นเท่าไหร่ก็คงต้องกดซื้อเพชร เข้าซักวัน ...

คุณลูกเลยช่วยคุณแม่ทำ ตารางขายของขึ้นมา เรียกว่า "Hay Day Price Mastery"
โดยมีจุดประสงค์เพื่อ

1. เอามาเปรียบเทียบว่าใครขายถูก ใครขายแพง ...
2. ขายอะไรกำไรที่สุด (ใช้เวลาน้อย + ราคาแพง)
3. ของชิ้นไหน มี addition margin (ขายเต็ม 10 ชิ้นได้ ปัดเศษเงินเพิ่มพิเศษ)

ไหนๆ ก็ทำแล้ว เอามาแชร์ก็คงไม่เป็นไร
เพราะเป็นแค่ information ไม่ได้ เป็น hack อะไร ...
และก็ยังไม่เสร็จซักทีเดียว  ...
ตัวอย่างดูได้จากรูปด้านล่างครับ ... ส่วน link ไป Google Doc อยู่ในชื่อด้านบน :)


ข้อมูลส่วนใหญ่นำมาจาก : http://hayday.wikia.com

ถ้าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ แนะนำให้เข้าไปดูที่ wikia เลยจะสะดวกกว่า